
ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ ผมเดินข้ามลำห้วยด้านถ้ำธารลอดใหญ่มายังอีกฝั่งหนึ่ง บริเวณนี้มีต้น ตำแยขึ้นเป็นหย่อมๆ สภาพเส้นทางนั้นเก่ายังกับไม่มีคนใช้เส้นทางนี้มานานแล้วแต่ก่อนผมใช้ทางนี้ ประจำสำหรับไปเที่ยวป่า แต่ 4 ปีแล้วที่ผมไม่เคยใช้เส้นทางนี้ จนกระทั่งมาถึงวันนี้ที่ผมต้องกลับไปยัง อดีตอีกครั้งหนึ่ง ทางเดินเดิมแทบไม่เห็นร่องรอยแล้ว ด่านแรกผมต้องไต่ไปตามสันเขา ซึ่งมีต้นไม้รวก ไว้สำหรับไต่ ข้างๆ ทางนั่นเองถ้าพลาดลื่นล้มก็มีสิทธิตกหน้าผาลงลำห้วยอย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งเดียวที่เราพอจะพึ่งได้คือ “ต้นไผ่รวก” หลังจากที่ไต่พ้น สันเขาแล้ว ผมใช้เวลานั่งพักอยู่บนเนินหลายนาที มองลงไปดูยังทางเดิมที่ไต่ขึ้นมาตะกี้สูงไม่ใช่ เล่นๆ เลยทีเดียว เขาลูกนี้ชาวบ้านเขาเรียกว่า “เขาเลียงผา” เมื่อก่อนนี้เคยมีเลียงผาชุกชุม แต่เดียวนี้จะหาแม้แต่รอยของมันยังยากเลย
ผมเดินเลาะตามทางว่างที่มองเห็นในภาพ นั่นแหละครับ ยิ่งเดินไปก็ยิ่งต่ำลงไปเรื่อยๆ ทำให้ ผมรู้เลยว่ามาผิดทางซะแล้ว เพราะทางเก่าที่เคย มานั้นต้องเดินเรียบไปตามสันเขา และต้องผ่าน ไร่ข้าวของชาวกระเหรี่ยง ถึงจะออกไปยังเส้นทางหลัก แต่ทางที่ผมเดินมานี้มีแต่จะลงเขาไปเรื่อยๆ จน กระทั่งมาถึงหน้าผา ก็ไม่รู้จะไปอย่างไรแล้ว ก็เลยจำเป็นต้องเดินย้อนกลับไปทางเดิม แต่พอเดินไปเดิน มาก็งงเช่นเดิม ท้ายสุดผมก็เลยเดินขึ้นไปบนเขาให้สูงเข้าไว้แล้วพยามมองดูไร่ข้าวชาวกระเหรี่ยง เป้า หมายเดียวที่จะออกจากพื้นป่านี้ได้อย่างเร็วที่สุด สายตาผมก็มองเห็นหุบหนึ่งซึ่งเป็นไร่ข้าวที่ปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ ยังดีที่พอมีร่องรอยหลงเหลือ ผมจึงดูทิศทางและเดินเลาะไปยังหุบนั้นลงไปยังไร่ข้าว อ้า… เจอ ทางออกจนได้